วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2554

วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7565 ข่าวสดรายวัน


เปิดตัวยา'เดรโก'เพชฌฆาตไวรัส อยู่หมัดทั้งหวัดเล็ก-ใหญ่
    การค้นพบยาปฏิชีวนะเพนิซิลลิน ในปี 2471  ที่นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการพัฒนายาฆ่าเชื้อโรคร้ายที่
บุกรุกเข้ามาในร่างกายก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วย   แม้เพนนิซิลลินจะไม่มีประสิทธิภาพรุนแรงต่อเชื้อโรคมากนักแต่มีข้อดีอยู่ที่การมีฤทธิ์ต่อเชื้อหลากหลายชนิด เรียกว่า  'บรอด สเป๊กตรัม'  โดยที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์พยายามพัฒนายาปฏิชีวนะที่มีฤทธิ์บรอด สเป๊กตรัม ชนิดใหม่  เพื่อทดแทนเพนนิซิลลิน        ซึ่งนับวันจะมีเชื้อดื้อยาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ   คณะนักวิจัยจากห้องปฏิบัติการลินคอล์น แห่งสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ ในเมืองแคมบริดจ์   รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ประสบความสำเร็จในการพัฒนายาปฏิชีวนะ 'เดรโก' สำหรับปราบเชื้อไวรัส ซึ่งจากการทดสอบพบว่า สามารถฆ่าไวรัสได้ชะงัดอย่างน้อย 15 สายพันธุ์  อาทิ  ไรโนไวรัส  ก่อโรคหวัดทั่วไป  อินฟลูเอ็นซาไวรัส สายพันธุ์เอช 1 เอ็น 1 หรือ ไข้หวัดหมู  เชื้อไวรัสก่อโรคไข้หวัดลงกระเพาะ  ไวรัสก่อโรคโปลิโอ  ไวรัสก่อโรคไข้เลือดออกหลายสายพันธุ์  โดยยาดังกล่าวสามารถแบ่งแยกเซลล์ที่ติด และไม่ติดเชื้อไวรัสออกจากกันได้ และจะเข้าทำลาย เฉพาะเซลล์ที่ติดเชื้อ กลไกการทำงานของยา 'เดรโก' (DRACO) ใช้โปรตีนชนิดพิเศษ ที่สามารถจับกับสารพันธุกรรม ชนิดอาร์เอ็นเอสายคู่  หรือดีเอสอาร์เอ็นเอ  ซึ่งปรากฏเฉพาะในไวรัสที่อยู่ระหว่างกระบวนการเพิ่มจำนวนภายในเซลล์เท่านั้น  แต่ในมนุษย์ไม่มีดีเอสอาร์เอ็นเอ  มีเพียงดีเอ็นเอสายคู่ หรือ ดีเอสดีเอ็นเอเท่านั้น โดยไวรัสเมื่อเข้าไปในเซลล์ได้แล้วจะลักลอบใช้กลไกภายในเซลล์ มาเพิ่มจำนวนให้ตัวเอง  รวมทั้งขโมยเอาคุณสมบัติของสารพันธุกรรมและ  เยื่อหุ้มเซลล์ไปพร้อมกันด้วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายสามารถตรวจพบไวรัสได้ยาก แม้เซลล์จะมีระบบป้องกันการลักลอบใช้กลไกภายในจากไวรัส แต่ไวรัสเองก็มีสารยับยั้งกระบวนการป้องกันนี้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้โปรตีนพิเศษในยา เดรโกจะเข้าไปจับกับดีเอสอาร์เอ็นเอของไวรัส  และจะออกคำสั่งให้เซลล์นั้นทำลายตัวเองในทันที  ผ่านกระบวนการ 'อพ็อปโตซิส' ซึ่งเกิดได้ตามธรรมชาติ เป็นการส่งสัญญาณให้เม็ดเลือดขาวประเภทลิมโฟซัยต์ ชนิดไซโตท็อกสิก-ที เซลล์ เข้าทำลายเซลล์อย่างปลอดภัยผลการทดสอบต่อเซลล์หนูและมนุษย์ที่ติดเชื้อในห้องปฏิบัติการ  พบว่า เดรโก มีความสามารถจัดการกับไวรัส 15 ชนิดที่ใช้ในการทดลองได้อย่างชนิดราพณาสูร และไม่เป็นพิษต่อหนูทดลองด้วย โดยทางคณะผู้วิจัยกำลังเตรียมจดสิทธิบัตรยาชนิดนี้ ก่อนจะนำไปทดลองกับสัตว์ใหญ่และมนุษย์ต่อไป

หน้า 28 







ไม่เคยพบในไทยรุนแรงถึงตาย

Hand Foot and Mouth Disease
เชื้้อตัวใหม่ชื่อ " เอนเทอโรไวรัส 71 "
ป่วยแล้วทั่วประเทศ 8405 ราย กทม. 1513 ราย ตายแล้ว 5 ราย ( ข้อมูลจาก นสพ.)
การติดต่อของโรค ติดต่อผ่านการกินอาหารที่่ปนเปื้อนเชื้อที่ติดมากับมือ ปกติเชื้อจะอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย
อุจจาระ หรือ น้ำในตุ่มพุพองหรือแผล
อาการ หลังติดเชื้้้อ 3-5 วัน จะมีอาการไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหารร่วมด้วย หลังจากนี้ 1-2 วันจะมีน้ำมูก เจ็บปาก เจ็บคอ ไม่อยากดูดนม ไม่อยากกินอาหาร   อาการรุนแรง   ปวดหัวมาก อาเจียนรุนแรง ซึม ไม่ค่อยรู้ตัว ชัก แขนขาอ่อนแรง หายใจหอบเหนื่อย พาคนป่วยพบแพทย์ด่วน...ด่วนค่ะ
ข้อมูลจากการสำรวจ 1 ม.ค. 54 - 22 ส.ค. 54 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณะสุข
ได้เวลาล้างมือบ่อยๆแล้วนะคะ 

วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2554

กลับมาตามคำเรียกร้อง Cody Mccosland


"ถ้าเขา ... มีขาที่ยืน เดินได้ ... เขาคงทำอะไรได้มากกว่านี้"

         ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณท่านผู้ปกครองและนักเรียนที่ร่วมบริจาค "หูกระป๋อง" สำหรับคนพิการ Cody Mccosland ไอ้ตัวเล็ก ... นักสู้ ... ผู้มีหลายขา จึงกลับมาอีกครั้งตามคำเรียกร้อง


         Cody เด็กชายนักสู้ผู้ไม่ยอมแพ้

         เด็กชายตัวน้อยชื่อ Cody Mccosland เด็กชาวอังกฤษ ผู้มีขาหลายคู่ เขาบ้าเล่นกีฬา แต่ก็เกิดมาโดยไม่มีกระดูกหัวเข่า ทำให้ต้องตัดขาท่อนล่างตั้งแต่อายุ 15 เดือน ขณะที่คนอื่นเดินเตาะแตะ แต่เขาเดินไม่ได้ แต่สองเดือนต่อมา เขาก็เริ่มหัดใช้ขาเทียมคู่แรก


         ตอนนี้ Cody อายุ 7 ขวบแล้ว ในภาพล่างเขาเล่นสกีน้ำ แต่อันที่จริง เขาเล่นทั้งว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน ตีกอล์ฟ เล่นคาราเต้ เบสบอล และฮอคกี้น้ำแข็ง


         ภาพล่างเขาขี่จักรยานสามล้อ พร้อมรอยยิ้มมีความสุขที่มีให้เห็นเสมอ



         ตามมาด้วยเขาขี่ม้า พ่อกับแม่ตั้งความหวังจะพาเขาดูโอลิมปิก ที่กรุงลอนดอนเป็น
เจ้าภาพในปี 2012 ด้วย


         ภาพเขาวิ่งด้วยขาคู่ที่ดูแปลก แต่น่าจะช่วยให้วิ่งได้เร็ว สมกับสมญานาม "The Boy With The Magic Legs" จริงๆ


         ขาเทียมของเขาได้รับบริจาคจากศูนย์ขาเทียม โรงพยาบาลเด็ก Texas Scottish Rite Hospital แต่เขาโตเร็วต้องเปลี่ยนขาอยู่เป็นประจำ


         Cody กับครอบครัวและเพื่อนๆ จึงเข้าร่วมงานการกุศลหาเงินช่วยโรงพยาบาล ได้เงินบริจาคมามากกว่า 6 หมื่นปอนด์แล้ว


         Cody ไม่ยอมให้มีอะไรเป็นอุปสรรคต่อชีวิตของเขา เราจึงได้เห็นภาพเขาเล่นฮอคกี้น้ำแข็ง เท่ชะมัด

         กว่าจะมาเป็นเด็กชายสุขภาพดี หน้าเปื้อนยิ้มในวันนี้ Cody ผ่านอะไรๆมาเยอะ รวมทั้งช่วงหนึ่งของชีวิต ที่เขาต้องผ่าตัดหลายต่อหลายครั้ง จากปัญหาระบบภายในร่างกาย รวมทั้งต้องบำบัดอาการหายใจติดขัดและหอบหืด

ใครที่กำลังท้อถอย ทั้งที่มีมือมีเท้าครบ อย่าทำตัวให้อาย Cody นะจ๊ะ


       ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก อสมท.


อย่าลืมร่วมกันบริจาค "หูกระป๋อง" ได้ที่ห้องพยาบาล ตึกสิริศตพรรษ

วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ข้อมูลสุขภาพ

ขอแจ้งให้นักเรียน ม.๑ ที่มาจาก ป.6เก่าของเราติดต่อขอรับ" ข้อมูลสุขภาพ " ที่ห้องพยาบาลตึกสิริศตพรรษกรุณาแสดงบัตรนักเรียนด้วยค่ะ  เอกสารของนักเรียนที่ไม่มารับ จะถูกทำลายวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๔ จึงแจ้งมาให้ทราบล่วงหน้า   ขอบคุณค่ะ